สายวิชา ”ทัศนมาตรศาสตร์” เป็นสาขาหนึ่งทางด้านการแพทย์ ซึ่งจะเรียนเกี่ยวกับการตรวจและวัดสายตา การแก้ไขปัญหาทางด้านสายตา รวมถึงการปรับแต่งกล้ามเนื้อตาด้วย ซึ่งจะเรียกอาชีพนี้ว่า “นักทัศนมาตร” นั่นเอง...
เอ๊ะ...แล้วจะต่างกับจักษุแพทย์ยังไง?
ก็จะต่างกันตรงที่ตรงที่นักทัศนมาตรจะไม่สามารถผ่าตัดตาได้นั่นเอง ซึ่งปกตินักทัศนมาตร กับจักษุแพทย์จะทำงานร่วมกันเป็นทีม โดยนักทัศนมาตรจะเป็นคนตรวจสอบและวิเคราะห์การทำงานของดวงตา ถ้าเกิดว่าจะต้องผ่าตัด ก็จะส่งไม้ต่อไปให้จักษุแพทย์เป็นคนลงมีด พอเสร็จแล้ว นักทัศนมาตรก็จะเป็นคนที่คอยเช็คการมองเห็นของคนไข้ต่ออีกที
ซึ่งอัตราส่วนที่ควรจะเป็นของทีมนี้จะต้องมีนักทัศนมาตร 2 คน ต่อจักษุแพทย์ 1 คน....ถ้ามีจักษุแพทย์ซัก 500 คน ก็จะต้องใช้ทัศนมาตรตั้ง 1000 คน....หมอที่ว่าขาดแคลนแล้ว นักทัศนมาตรนี่ยิ่งกว่า บอกเลยว่าจบมาไปหางานโรงพยาบาลได้แน่นอน คอนเฟิร์ม!!
แล้วนักทัศนมาตรนั้น ใช้เวลาเรียนแค่ 6 ปี ก็ออกมาสอบใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะได้แล้ว ส่วนการที่จะปลุกปั้นจักษุแพทย์ที่มีฝีมือ จะต้องใช้เวลาเรียนรวมแล้วประมาณ 13 ปี ห่างกันตั้งครึ่งต่อครึ่ง
แม้ตอนนี้จะยังไม่กำหนดเป็นสายงานที่ชัดเจน แต่มีนักศึกษาที่จบสาขานี้ ไปทำงานเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านคอนแทคเลนส์ ได้รับเงินเดือนตั้ง 80,000 บาท !!! เรียกได้ว่าไม่น้อยหน้าหมอเลย
ปัจจุบันมีมหาลัยที่เปิดสอบหลักสูตรนี้ 3 มหาวิทยาลัย ได้แก่ มหาวิทยาลัยรามคำแหง มหาวิทยาลัยนเรศวร และมหาวิทยาลัยรังสิต แล้วก็มีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งความจริงมีแผนการจะเปิดหลักสูตรทัศนมาตรศาสตร์ในปี 2559 แต่มีการเลื่อนเปิดออกไปและยังไม่มีกำหนดเปิดชัดเจนครับ
ถือว่า “ทัศนมาตรศาสตร์” เป็นสาขาหนึ่ง สำหรับน้อง ๆ ที่ยังไม่กำลังจะจบการศึกษาควรจะมองไว้เป็นอันดับต้น ๆ เลยเชียวแหละครับ หรือสำหรับผู้ที่จบการศึกษา ระหว่างรองาน สมัครงานยังไม่ได้ สามารถไปศึกษาข้อมูล เกี่ยวกับสาขานี้ เผื่ออาจจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการตัดสินใจ และเป็นหนึ่งทางเลือกของอนาคตได้นะครับ
และสำหรับข่าวสารดี มีสาระ พร้อมกิจกรรม เพื่อนๆ สามารถติดตามพวกเราได้ที่
Youtube: https://www.youtube.com/user/jobbkkdotcom
JOBBKK Facebook Fanpage: https://www.facebook.com/jobbkk
หางานตามสาขาอาชีพ
JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved
jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด